|
||||||
|
||||||
วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์2/5 ม.6 ถ.เพชรเกษม ต.ท่าข้าม อ.สามพราน จ.นครปฐม 73110 โทรศัพท์ 02-4290117-8 โทรสาร 0-2429-0864 มือถือ 087-5314490 เว็บไซต์ www.santikham.com อีเมล info@santikham.com พื้นที่บริเวณ กม.ที่ 30 ฝั่งขวาของถนนเพชรเกษม จากกรุงเทพฯ ไปยังจังหวัดนครปฐม อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้ทำการสร้างสามเณราลัยนักบุญยอแซฟฯ สามพราน จากความรับผิดชอบดำเนินการของพระคุณเจ้ายวง นิตตโย เพื่อเป็นสถานที่เตรียมผู้ที่จะบวชเป็นพระสงฆ์ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ แยกจากบ้านเณรดาราสมุทร ศรีราชา ควบคู่ไปกับการสร้าง โรงเรียนยอแซฟอุถัมภ์ เปิดให้บริการด้านการศึกษาแก่บรรดาเด็กและเยาวชน ในละแวกบางแค สามพราน นครปฐม ในปีการศึกษา 2507/1962 ส่วนบริเวณซอยหมอศรี (ปัจจุบัน คือ ซอยศรีเสถียร) เป็นทุ่งนา จนกระทั่งปี พ.ศ. 2510 คุณศรี ภูรีโรจน์ หรือที่เรียกกันคุ้นหูว่า “หมอศรี” ได้ทำการจัดสรรแบ่งขายที่ดินเป็นแปลงเล็กๆ ขนาด 100-200 ตารางวา โดยมีจุดประสงค์ที่จะให้เป็นหมู่บ้านคาทอลิก และในระยะเวลานั้นวิทยาลัยแสงธรรมก็ได้ก่อสร้างขึ้น รวมทั้งยังมีวัดนักบุญเปโตรซึ่งเป็นวัดใหญ่ และเก่าแก่วัดหนึ่งในอัครสังฆณฑลกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณที่จัดสรรแห่งนี้ คริสตชนที่อยู่ในบริเวณนี้ก็สามารถไปร่วมมิสซา และพิธีกรรมต่างๆ ได้จึงมีคาทอลิกจากวัดเซนต์หลุยส์ วัดอัสสัมชัญ วัดกาลหว่าร์ วัดสามเสน อำเภอขลุง จันทบุรี ราชบุรี อยุธยา ปทุมธานี นครราชสีมา และวัดอื่นๆ อีกหลายแห่งเข้ามาอยู่ในบริเวณนี้ ต่อมาก็มีบ้านนักบวชที่มาสร้างอยู่ในซอยนี้เช่นกันนั่นคือ บ้านคณะคามิลเลี่ยน บ้านคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.) และบ้านซิสเตอร์คณะซาเลเซียน ดังนี้คริสตชนในซอยศรีเสถียรจึงได้ไปร่วมมิสซา และพิธีกรรมต่างๆ ตามบ้านนักบวชเหล่านี้ กลางปี พ.ศ. 2533 คุณพ่อพิบูลย์ วิสิฐนนทชัย (ขณะนั้นเป็นอธิการบ้านเณรเล็กยอแซฟ) ได้เชิญคริสตชนที่อาศัยอยู่ในซอยศรีเสถียรมาประชุมพร้อมกันที่หอประชุมโรงเรียนยอแซฟอุปถัมภ์ เพราะคุณพ่อเห็นว่าคริสตชนที่นี่ต่างคนต่างอยู่ไม่รู้จักกันคุณพ่อจึงมีความปรารถนาที่จะให้พวกเขามีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อพัฒนาชีวิตภายในของพวกเขาให้ดีขึ้น ในการประชุมนั้นคุณพ่อให้ทุกคนเสนอความคิดเห็น ต่างมีความเห็นพ้องต้องกันว่าอยากให้มีวัดในซอยหมอศรี คุณพ่อจึงแนะนำให้พวกเขารวมตัวกันให้ได้ก่อนโดยให้มีการพบปะกันเพื่อสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสวดภาวนาร่วมกันทุกอาทิตย์ คือทุกคืนวันเสาร์ โดยใช้สถานที่ของบ้านคณะคามิลเลี่ยน ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากคุณพ่อโจวันนี คอนตารีน(ค.พ.ยอห์น) และเป็นกำลังที่เข้มแข็งของกลุ่ม นอกจากนั้นคุณพ่อพิบูลย์ ยังได้เชิญคุณพ่ออาเรนส์ บรูโน และบราเดอร์ (คณะ O.M.I.) และซิสเตอร์คณะ ซาเลเซียน(โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์) เข้าร่วมประชุมด้วย พร้อมทั้งให้มีการสำรวจคริสตังในบริเวณซอยศรีเสถียรและใกล้เคียง ซึ่งพบว่าในเวลานั้นมีคริสตังอยู่ประมาณ 70 ครอบครัว การรวมตัวครั้งนั้นคุณพ่อแนะนำให้พวกเขาตั้งกลุ่มแม่บ้าน กลุ่มพ่อบ้าน กลุ่มเยาวชน เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น กิจกรรมวันแม่ วันพ่อ วันเยาวชน วันผู้สูงอายุ นอกนั้นยังมีการสวดสายประคำตามบ้าน เพื่อสวดภาวนาร้องเพลงอวยพร ในเทศกาลพระคริสตสมภพและอื่นๆ ในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางกลุ่มต้องขอใช้สถานที่จากบ้านคณะคามิลเลี่ยนบ้าง บ้านสวนยอแซฟบ้าง โรงเรียนมารีย์อุปถัมภ์บ้าง พวกเขาจึงได้ปรารภกันว่าน่าจะมีสถานที่หรือวัดของชุมชนเอง เพื่อจะได้ร่วมพิธีกรรม ทำกิจศรัทธา หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นกิจจะลักษณะให้ดียิ่งขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เมื่อทางคณะธรรมทูตแห่งมารีนิรมล (O.M.I.) ได้จัดให้มีการเสกบ้านของคณะขึ้น โดยพระคุณเจ้าพระคาร์ดินัล มีชัย กิจบุญชู เป็นประธาน พวกเขาก็ ได้เรียนถามพระคุณเจ้าว่าชุมชนชาวศรีเสถียรจะมีหวังได้มีวัดของตนเองหรือไม่ พระคุณเจ้าได้กรุณาตอบว่า มีแน่ๆ แต่กำหนดแน่นอนไม่ได้ว่าเมื่อไร ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาชุมชนก็มีความหวังว่าจะได้มีวัดแน่นอน เมื่อคุณพ่อพิบูลย์ เห็นว่าพวกเขาได้มีการรวมกลุ่มกันดีแล้ว จึงได้ค่อยๆ วางมือไปเพื่อให้พวกเขาจัดการบริหารกลุ่มกันเอง คุณพ่อได้เน้นว่าจะต้องพึ่งตัวเอง ช่วยเหลือซึ่งกันและกันให้ได้จะยึดติดอยู่กับพระสงฆ์ นักบวชองค์ใดองค์หนึ่งเป็นแกนนำตลอดไปไม่ได้ เพราะมีการสับเปลี่ยน โยกย้ายหน้าที่ ความรับผิดชอบอยู่ตามวาระ แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ เมื่อคุณพ่อพิบูลย์ได้ย้ายไปรับหน้าที่ในกรุงเทพฯ อีกทั้งคุณพ่อ บราเดอร์และ ซิสเตอร์หลายท่านก็โยกย้ายกันไปในที่ต่างๆ กลุ่มก็ขาดแกนนำ กิจกรรมต่างๆ ก็ลดน้อยถอยลง ต่อมาชาวบ้านก็ได้รวมตัวกันอีกครั้งโดยมีคุณพ่อไพรัช ศรีประเสริฐ เป็นผู้นำในครั้งนี้เป็นการรวมตัวครั้งที่สองพร้อมกับพี่น้องที่มิใช่คาทอลิก โดยมีจุดประสงค์เพื่อพัฒนาซอยศรีเสถียรที่อยู่ในสภาพทรุดโทรม ด้วยการซ่อมแซมและปรับปรุงถนนสายหลัก ล้างและซ่อมท่อระบายน้ำ ติดไฟริมถนนสายหลักเพื่อให้แสงสว่างแก่ผู้ที่สัญจรไปมาในเวลาค่ำคืน ซึ่งนับได้ว่าเป็นการทำประโยชน์ให้กับสังคมซอยศรีเสถียร จากนั้นอีก 2-3 ปี ในบริเวณที่ดินของสัฆมณฑลตรงปากซอยซ้ายมือ(จากถนนเพชรเกษม) ได้มีการล้อมรั้วลวดหนาม ถมดิน และเริ่มก่อสร้างอาคารช่วงเวลานั้นมีเสียงพูดต่างๆ กันไป บ้างว่าเป็นการสร้างสนามกีฬา บ้างว่าเป็นโรงเรียน บ้างว่าเป็นหอประชุม ซึ่งก่อนหน้านั้นได้มีการสร้างสุสานศานติคาม ซึ่งเป็นสุสานกลางของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ที่สุดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ โดยพระคาร์ดินัลมีชัย กิจบุญชู ได้อนุมัติให้ก่อสร้างวัด พร้อมบ้านพักพระสงฆ์ บ้านพักภคินีในปี 2540/1997 ทำการเสกและเปิดวัดให้เป็นวัดของชุมชนอย่างเป็นทางการในวันที่ 15 พฤษภาคม 2542/1999 โดยให้ชื่อว่า “วัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์”
ลำดับพระสงฆ์เจ้าอาวาส
คุณพ่อเบเนดิก ถนอมศักดิ์ เลื่อนประไพ (1998-2002) เจ้าอาวาสองค์แรก รับตำแหน่งในขณะที่กำลังทำการก่อสร้างวัด บ้านพักพระสงฆ์ บ้านพักภคินี ปลูกต้นไม้บริเวณรอบวัด สุสาน จัดเตรียมการเปิดและเสกวัดพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นวรรค์ จัดตั้งสภาภิบาลกลุ่มเยาวชน กลุ่มพลมารี ประสานกับนักบวชคณะคามิลเลี่ยน OMI ซิสเตอร์คณะซาเลเซียน (ร.ร.มารีย์ฯ) และบรรดาสัตบุรุษที่อยู่ในบริเวณซอยหมอศรี เพื่อสร้างชุมชนวัดใหม่ให้เข้มแข็ง ทั้งจัดให้มีการสวดตามบ้านรวมทั้งการเชิญพระกุมารไปตามบ้าน จัดการฉลองวัดประจำปี และการเสกสุสานฯ ประจำปี
คุณพ่อยอแซฟ พงษ์เกษม สังวาลย์เพ็ชร (2002-2004) เจ้าอาวาสคนที่ 2 อัครสังฆมลฑลกรุงเทพฯ สร้างอาคารเพื่อนักเรียนยอแซฟฯ แผนกสามัญหญิง และแผนกอนุบาล บริเวณหลังที่ตั้งของวัด
คุณพ่อชาร์ลสโบโรเมโอ สุรศักดิ์ อัมพาภรณ์ (2004-2007) เจ้าอาวาสคนที่ 3 มาเซอร์คณะเซนต์ปอล เดอ ชาร์ต ได้เข้าพักประจำที่บ้านภคินี และบริหาร รร.ยอแซฟฯแผนกสามัญหญิง และแผนกอนุบาล
คุณพ่อฟรังซิส เซเวียร์ เดชา อาภรณ์รัตน์ (2007-2008) เจ้าอาวาสคนที่ 4 จัดห้องแต่งตัวพระสงฆ์ด้านหลังวัดให้เป็นวัดน้อย เพื่อถวายมิสซาเช้าสำหรับมาเซอร์ ภายหลังปรับมาใช้ในวัดมุมนักขับร้องสำหรับถวายมิสซาเช้าแทนหลังวัด
คุณพ่อฟิลิป ชูศักดิ์ บุญอนันตบุตร (2008-2009) เจ้าอาวาสคนที่ 5
คุณพ่อเปโตร ชัชวาล ศุภลักษณ์ (2009 - 2021) เจ้าอาวาสคนที่ 6 เดือนกรกฎาคม 2009/2552 จัดกั้นกระจกชั้นลอยหน้าวัดพร้อมติดเครื่องปรับอากาศเพื่อเป็นวัดน้อย สำหรับถวายมิสซาเช้าให้มาเซอร์ในวันธรรมดา ตั้งรูปแม่พระด้านนอกหน้าวัดฝั่งซ้าย และทำการเสกในเดือนสิงหาคม 2011/2554 พร้อมทั้งจัดสร้างอนุสาวรีย์พระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสวรรค์ที่บริเวณวงเวียนหน้าวัด และทำการเสกโดยพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู วันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2011/2554 ปี 2012/2555 ขออนุญาตอัครสังฆมลฑลติดเครื่องปรับอากาศในวัด โดยระดมทุนจากสัตบุรุษ และผู้มีจิตศรัทธา งบประมาณ 4 ล้านบาท เริ่มดำเนินการติดตั้งในเดือนตุลาคม 2013/2556 เริ่มใช้เป็นทางการในวันปาสกาปี 2014/2557
คุณพ่อยอแซฟ กิตติศักดิ์ กาญจนธานินทร์ (2021 – ปัจจุบัน) เจ้าอาวาสคนที่ 7 " ปรับปรุงล่าสุด เดือนมีนาคม 2021" |
||||||
หน้าแรก | ประวัติสุสาน | ประวัติวัด | ค้นหาหลุมศพ | ตารางมิสซาประจำเดือน | ตารางมิสซา | ข่าวสาร | รวมรูปภาพ | ติดต่อเรา Copyright © 2009 ศานติคาม สุสานมิสซังโรมันคาทอลิกกรุงเทพ ฯ |
||||||